การซื้อเครื่องปรับอากาศ มีหลากหลายหลักเกณฑ์ หลายปัจจัย และหลายเหตุผลของแต่ละคนในการหาเหตุผลที่จะเลือกแอร์สักเครื่อง ซึ่งแต่ละคนย่อมมีเหตุผลที่แตกต่างกันไป แต่พอซื้อมาแล้วดันเกิดไม่พอใจ หรือลืมคิดถึงอีกเหตุผลไปนั้น ดังนั้น JARTON จึงขอรวบรวมเรื่องต้องรู้ 6 ข้อ เพื่อประกอบการพิจารณาแอร์ว่ามีอะไรที่ควรคำนึงถึงบ้าง

     1. เลือกตามประเภทแอร์ที่ต้องการ ทั้งรูปแบบเครื่องและขนาด BTU

ประเภทแอร์แบบเคลื่อนที่ (ขนาด 6,600 - 15,000 BTU) จุดเด่นอยู่ที่ ขนาดเล็ก เคลื่อนย้ายง่าย ไม่ต้องติดตั้ง สามารถใช้งานได้ทันที แต่ว่าข้อเสียของแอร์แบบเคลื่อนที่ก็คือ ต้องหาวิธีระบายความร้อนออกสู่ภายนอก และหาที่ระบายน้ำทิ้งของแอร์เอง แถมมีเสียงดัง และความเย็นเฉพาะจุดไม่ทั่วถึง 

ประเภทแอร์แบบติดผนัง (ขนาด 9,000 - 36,000 BTU) เป็นแอร์มาตรฐาน มีจุดเด่นที่การทำงานเงียบ รูปทรงสวยงาม ไม่เปรืองพื้นที่ และมีให้เลือกมากมาย แต่ข้อจำกัดตรงที่ต้องติดที่ผนังเท่านั้น แถมยังมีการกระจายลมน้อยกว่าแอร์แบบติดผนังและแบบแอร์แบบแขวนเพดาน

ซึ่งโดยรวมแล้วนั้น เราจะต้องเลือกเครื่องปรับอากาศ ที่ราคาเหมาะสมกับคุณภาพ และความต้องการใช้งานในแต่ละสถานที่ และที่สำคัญจะลืมไม่ได้เลยก็คือ จะต้องได้รับการรับรองมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (มอก.)

2. เลือกขนาดความเย็นที่เหมาะกับขนาดห้องและการใช้งาน

เพื่อช่วยประหยัดค่าไฟที่จะต้องจ่ายโดยไม่จำเป็น โดยค่า BTU นั้นเป็นตัวกำหนดความเย็นของเครื่องปรับอากาศนั่น ซึ่งการเลือก BTU หากเลือกไม่เหมาะสมจะมีผลตามมาก็คือ

หากว่าค่า BTU ต่ำเกินไป จะทำให้คอมเพรสเซอร์ (Compresser) ทำงานหนักทำให้สิ้นเปลืองพลังงาน เปลืองค่าไฟ และแอร์จะเสียเร็ว

หากว่าค่า BTU สูงเกินไป คอมเพรสเซอร์ (Compresser) ตัดบ่อยเกินไป ทำให้ประสิทธิภาพโดยรวมลดลง ห้องมีความชื้นมากเกินไป แถมแอร์ยังราคาแพงและทำให้เปลืองไฟอีกด้วย

ดังนั้นการเลือกเครื่องปรับอากาศ ที่มีขนาด BTU ที่ดีและเหมาะสมนั้น เป็นปัจจัยสำคัญที่สามารถทำให้แอร์ยืดอายุการใช้งานได้ยาวนานขึ้น

3. เลือกซื้อแอร์ที่มีฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 จากหน่วยงานการไฟฟ้า

เลือกเพื่อเป็นการรับรองในการประหยัดพลังงาน และเป็นการเพิ่มความมั่นใจ ว่าคุณจะได้แอร์ที่มีคุณภาพสมราคา และเป็นแอร์แบบของแท้จากผู้ผลิตจากโรงงาน จึงควรมองหาแอร์ที่มีสัญลักษณ์ต่อไปนี้ เช่น ฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 หรือฉลาก มอก. (มี มอก.1155 และ มอก.2134)

4. ค่าไฟหลังจากใช้งานแล้ว ค่าพลังงานที่เสียไปคุ้มไหม

ซึ่งโดยปกติแล้วแอร์จะมีแผ่นสติกเกอร์ หรือแผ่นโลหะติดที่ตัวเครื่องอยู่แล้ว เพื่อแสดงปริมาณไฟฟ้าที่มีการใช้งาน (หน่วยเป็นวัตต์) ซึ่งเครื่องปรับอากาศแทบทุกชนิดนั้น มีการกินไฟที่ถือว่าเยอะอยู่แล้ว เราจึงควรให้ความสำคัญกับค่าใช้จ่ายในส่วนนี้ก่อนส่วนอื่นๆ ในบ้าน ซึ่งควรใช้พิจารณาประกอบการซื้อ เพื่อที่จะได้ใช้แอร์ตามการใช้งานจริงๆ ให้ประหยัดไฟ

หากเป็นบ้านพักอาศัย ติดแอร์ในห้องนอน ก็ควรจะประมาณ 12,000 BTU ก็เพียงพอแล้ว อันนี้แล้วแต่กับการใช้งานและสภาพแวดล้อมด้วย (BTU เยอะ = กินไฟเยอะ)

    5. คุณสมบัติอื่นๆ

เช่น Uni-Aire JARTON ที่มาพร้อมกับฟีเจอร์เครื่องปรับอากาศอัจฉริยะ ควบคุมการทำงานด้วยมือถือผ่าน Wi-Fi มี JARTON Home เพียงแอปเดียวก็สามารถควบคุมการทำงานได้ทั่วโลก

สั่งการด้วยเสียงผ่าน Amazon Alexa / Google assistant / Siri นอกจากนี้ยังมีเทคโนโลยีเพื่อสุขภาพ แผ่นกรองฝุ่น PM2.5 แผ่นอากาศ 4 สี และเทคโนโลยีเพื่อความทนทานด้วยฟินสีทอง Golden Titanium Coil ที่ระบายอากาศได้ดี ไม่ก่อให้เกิดหยดน้ำ ลดการอับชื้นไม่เกิดเชื้อรา ช่วยยืดอายุการใช้งานและประหยัดไฟได้ดี

6. การติดตั้งเครื่องปรับอากาศ และการเตรียมพร้อมในการบำรุงรักษา

ซึ่งการติดตั้งนั้นจะต้องติดตั้งจากช่างแอร์ผู้ชำนาญการ และผู้ใช้งานเองต้องมีการวางแผนการซ่อมบำรุง และตรวจเช็กเครื่องปรับอากาศ รวมไปถึงการล้างแอร์อย่างเหมาะสม ซึ่งเรื่องเกี่ยวกับการดูแลรักษาเครื่องปรับอากาศนั้นจะช่วยให้อายุการใช้งานยาวนานขึ้น แถมยังมีประสิทธิภาพในการทำความเย็นที่ดีขึ้นด้วย

.

.

สนใจ Uni-Aire (x) JARTON คลิก

.

.

#JARTON #UniAireJARTON #เครื่องปรับอากาศ #แอร์ #Air